ชื่อว่าอเวจีนรกนั่นคือ เป็นนรกที่ปราศจากความบางเบาแห่งทุกข์
ความเป็นอยู่ นรกขุมนี้ เป็นนรกขุมใหญ่กว่าบรรดานรกทั้งหลาย ดูน่ากลัวน่าสยดสยองยิ่งนัก แลเห็นเป็นราวกะว่าเมืองใหญ่ ล้อมรอบด้วยกำแพงเหล็กที่รุ่งโรจน์โชตนาการด้วยเปลวไฟภายในมีเปลวไฟร้อนระอุไหม้สัตว์นรกอยู่เนืองนิตย์ ทั้งกลางวันกลางคืนไม่มีว่างเว้นเลย สัตว์ที่ไปเกิดอยู่ในมหานรกอเวจีนี้ มีมากกว่าในนรกขุมอื่น แออัดยัดเยียดเบียดเสียดกันอยู่
และการเสวยทุกข์โทษในนรกขุมนี้ ก็แตกต่างกันไปหลายอิริยาบถ หลายท่าหลายทาง เช่นถ้าเคยยืนทำบาปไว้ก็ต้องมายืนทนทุกข์อยู่ เคยเดินทำบาปไว้ ก็ต้องมาเดินทนทุกข์อยู่ เคยนั่งเคยนอนทำบาปไว้ ก็ต้องมานั่งมานอนเสวยทุกข์อยู่ในมหานรกอเวจีนี้
รวมความว่า เคยทำบาปทำกรรมอะไรไว้ด้วยอาการอย่างไรก็ต้องมาเสวยทุกข์อยู่ในนี้ด้วยลักษณะการเช่นนั้น
อายุ เกณฑ์อายุของสัตว์ที่เกิดในอเวจีนรกโลกนี้ มีประมาณหนึ่งอันตรกัป
บุรพกรรม เมื่อเป็นมนุษย์ได้ทำอนันตริยกรรม ซึ่งได้แก่กรรมอย่างหนักอย่างยิ่ง 5 ประการ คือ
1. ฆ่ามารดาของตัวให้ตายเองหรือใช้ให้คนอื่นฆ่า
2. ฆ่าบิดาของตัวให้ตายเองหรือใช้ให้คนอื่นฆ่า
3. ฆ่าพระอรหันต์ให้ตายเองหรือใช้ให้คนอื่นฆ่า
4. ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต
5. ทำสังฆเภท คือ ยุยงให้สงฆ์แตกกัน
ทำอนันตริยกรรม 5 ประการนี้ แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ครั้นแตกกายทำลายขันธ์จึงต้องมาเสวยทุกข์อยู่ในนรกขุมนี้
โลกทีปนี เล่มที่ 11 หน้า 37
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น