พรานผู้ได้คิด เพราะได้กัลยาณมิตรที่ดี..

เรื่องราวต่างๆ ในอดีตนั้นมีมากมาย สามารถนำมาเป็นข้อคิดได้แตกต่างกันไปหลากหลายแง่มุม..

 และเรื่องราวของหนุ่มน้อยผู้หนึ่ง ซึ่งเกิดในตระกูลพรานป่า ก็น่าสนใจ เพราะลำพังตัวเขาเองนั้นไม่คิดที่อยากจะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเลย แต่เพราะบิดาบังคับ เขาจึงจำใจต้องเรียนวิชาการล่าสัตว์เอาไว้..

 ต่อมาเมื่อบิดามารดาได้จากไป เขาเองก็เติบโตมีลูกและภรรยา ด้วยความที่ไม่รู้ในการทำอาชีพอย่างอื่น เขาจึงยึดอาชีพเป็นพรานป่า เที่ยวออกล่าสัตว์ และเอาไปขายเพื่อยังชีพของตนและบุตรภรรยา
pixabay.com
ต่อมาวันหนึ่งเขาเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์เช่นเคย แต่บังเอิญเกิดอาการหลงลืมจนจำหนทางกลับบ้านไม่ได้ เขาจึงลัดเลาะหาทาง จนถลำเข้าไปในป่าใหญ่ที่ห่างไกลยิ่งๆขึ้นทุกที..

 หลังจากที่รอนแรมในป่ามาหลายวันแล้ว เขาก็ได้พบเข้ากับ พระฤๅษีท่านหนึ่ง ด้วยความดีใจ จึงรีบเข้าไปถวายนมัสการ

 เมื่อพระฤาษีทักถามไถ่จนได้รู้ความเป็นมา จึงเชื้อเชิญให้พักผ่อนอยู่ที่อาศรมก่อน ผลไม้ป่าและน้ำท่าก็มีพร้อม โดยมิต้องเกรงใจ ว่าแล้วพระฤๅษีก็เข้าที่นั่งเจริญภาวนาต่อไป

  เมื่อพรานนั้นได้รับความอารีจากท่านฤๅษี ก็รู้สึกตื้นตันใจ เขาจึงเกิดความตั้งใจดี ที่จะพักอยู่ที่นั่น เพื่อปฏิบัติรับใช้ท่านฤๅษีผู้มีความเมตตากรุณา สักสี่ห้าวัน แล้วค่อยคิดหาทางกลับบ้านในภายหลัง..

 ช่วงที่เขาอยู่ปฏิบัติรับใช้พระฤๅษีอยู่ในป่านั้น เมื่อว่างจากการเจริญสมาธิภาวนาแล้วพระฤๅษีผู้เป็นบัณฑิตและมีจิตกรุณา ก็ไต่ถามถึงความเป็นไปในชีวิตของเขา.. 
pixabay.com
แล้วช่วยสอนชี้ให้เห็นโทษภัยของการเป็นพรานใจโหด เที่ยวฆ่าสัตว์น้อยใหญ่ ว่าจะทำให้ผลวิบากไปเกิดเป็นสัตว์นรก ที่ถูกไฟนรกเผาไหม้ให้ทุกข์ทรมานแสนสาหัส

  เมื่อพระฤๅษีชี้แจงอานิสงส์แห่งการเจริญกสิณภาวนาสมถกรรมฐานว่า สามารถที่จะนำตนให้พ้นภัยจากนรกและมีโชควาสนา ได้ไปอุบัติเกิดเป็นพระพรหมเสวยสุขแสนประเสริฐ 

ซึ่งคำสอนนี้ทำให้เขาเกิดความตื่นเต้นยินดีที่จักปฏิบัติตามยิ่งนักฉะนั้น เขาตัดสินใจทิ้งธนูคู่มือและอุปกรณ์การล่าสัตว์เสียทั้งหมด และในเวลานั้นก็ยกกรขึ้นวันทาขอบวชเป็นฤๅษีทันที
      
 แล้วเรียนเอากสิณภาวนาสมถกรรมฐานจากพระฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ อุตสาหะเพียรพยายามฝึกจิตบำเพ็ญกรรมฐาน ในความควบคุมอย่างใกล้ชิดของอาจารย์ ไม่นานพระฤๅษีอดีตพรานไพรก็ได้บรรลุฌานสมาบัติสมความปรารถนา..

 ต่อมาจึงขอลากราบพระอาจารย์เดินทางเข้าไปในป่าลึกเลือกที่เหมาะได้แห่งหนึ่ง สร้างอาศรมเป็นที่พำนัก อยู่อย่างสันโดษ และผาสุกด้วยฌานสมาบัติเป็นเวลาช้านาน..

 จากเรื่องราวดังกล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่า ผู้มีปัญญาเห็นโทษภัยในวัฏสงสาร จึงออกบวชเพื่อแสวงหาหนทางพ้นจากทุกข์ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า..

เพราะการบวช หากปฏิบัติดีปฏิบัติชอบย่อยได้อานิสงส์ผลบุญ ติดตัวไปข้ามชาติ ทั้งยังปิดนรกเปิดทางสวรรค์ให้กับตัวเองและเป็นการตอบแทนพระคุณบุพการีผู้ให้กำเนิด ที่ประเสริฐยิ่งนัก..

วิมุตติรัตนมาลี   เล่มที่ 3   หน้า  242-244
รูปภาพจาก pixabay.com

ความคิดเห็น