หมั่นประชุมเป็นเนื่องนิตย์

 พระภิกษุสงฆ์
หลวงพ่อองค์หนึ่งมีสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ คือเป็นเจ้าคุณดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เป็นพระเถระที่มีความรับผิดชอบสูง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย เป็นตัวอย่างแก่พระสงฆ์ในปกครอง จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภออีกหนึ่งตำแหน่ง 

ตามปกติในวงการของคณะสงฆ์ จะมีการประชุมพระสังฆาธิการ หรือพระระดับปกครอง เช่น เจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบลเป็นประจำ แม้ในจังหวัดนั้นก็มีการประชุมเป็นครั้งคราวเสมอ และทุกครั้งที่มีการประชุมหลวงพ่อจะไม่ขาดประชุมเลย 

มีประชุมกี่วันก็ไปครบทุกวัน และอยู่ในที่ประชุมตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งเลิกประชุม จนเป็นที่รู้กันในหมู่พระสังฆาธิการ แม้ต่อมาท่านจะมีอายุใกล้ ๙๐ ปีแล้ว ท่านก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นโดยไม่ยกอายุมาเป็นข้ออ้าง เพื่อไม่ต้องไปประชุม

ครั้งหนึ่ง เจ้าคณะจังหวัดนัดประชุมพระสังฆาธิการทั้งจังหวัด มีกำหนด ๓ วัน ที่วัดแห่งหนึ่ง สถานที่ประชุมก็จัดแบบทั่วไป แต่เฉพาะพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะอำเภอ เขาจัดก้าอี้พิเศษให้นั่งทางด้านข้างเวที 

เมื่อถึงวันประชุม พระสังฆาธิการก็มาพร้อมกันเช่นเคย เจ้าคณะอำเภอรูปนั้นก็มา แม้ว่าจะไม่ค่อยแข็งแรงนัก เจ้าคณะจังหวัดทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม เมื่อเปิดประชุมแล้วก็มีวิทยากรบรรยายเป็นเรื่อง ๆ  ตามตารางการประชุม 

เจ้าคณะจังหวัดท่านมองเห็นเจ้าคณะอำเภอนั้นแล้ว แต่มิได้แสดงอาการอะไร เพราะถือว่าท่านมาทำหน้าที่ของท่าน

ในวันที่สอง เจ้าคณะอำเภอรูปนั้นก็มาประชุมตามปกติ โดยมีพระพี่เลี้ยงคอยประคองมานั่งที่เก้าอี้ ปกติเมื่อท่านนั่งแล้วก็จะนั่งก้มหน้า ไม่มองใคร และไม่มีใครมาชวนท่านคุยด้วย เนื่องจากต่างวัยกันมาก นอกจากมาทำความเคารพแล้วก็ไปนั่งยังที่ของตน

เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาประชุม เจ้าคณะจังหวัดจึงเดินเข้าไปหาท่านแล้วกล่าวว่า "ต่อไปเมื่อมีการประชุม หลวงพ่อไม่ต้องมาเองก็ได้ ให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาสหรือเลขาฯ มาแทน หลวงพ่อจะได้ไม่ต้องลำบาก พักผ่อนอยู่ที่วัดจะดีกว่า อายุมากแล้วไม่มีใครว่าหรอก"

ท่านได้ยินเจ้าคณะจังหวัดกล่าวดังนั้น จึงเงยหน้าขึ้นแล้วตอบเบา ๆ ว่า "ไม่เป็นไรหรอกครับท่านเจ้าคุณ เป็นหน้าที่ มาประชุมฟังเขาพูด ได้มั่งไม่ได้มั่ง ก็ยังดีกว่านอนเป็นลูกฟักอยู่ที่กุฏิ" 

เจ้าคณะจังหวัดได้ยินดังนั้นถึงกับทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า กราบเท้าเจ้าคณะอำเภอ ซึ่งมีอายุพรรษาแก่กว่านับสิบปี ด้วยความศรัทธาในปฏิปทาของท่าน และในภายหลัง เมื่อไปพูดหรือบรรยายที่ไหน ก็มักจะยกปฏิปทาของหลวงพ่อ มาเล่าให้พระสังฆาธิการฟัง ถึงความรับผิดชอบในหน้าที่.

เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า : 

การเข้าประชุมตามหน้าที่ และอยู่ในที่ประชุมจนถึงเลิกนั้น ถือว่าเป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น ผู้มีหน้าที่หากปฏิบัติหน้าที่แค่นี้ยังไม่ได้ ก็สื่อไปถึงความรับผิดชอบงานอื่น ๆ ว่าคงปฏิบัติได้ไม่ดีนัก 

การประชุมมิใช่มุ่งเพียงให้ความรู้ ความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ แก่ผู้เข้าประชุมเท่านั้น หากแต่มุ่งให้เกิดความสามัคคีทางกาย และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่ใต้ปกครองด้วย 

ารที่คิดว่าตัวเองรู้ดีแล้ว ไม่ต้องฟังใครมาอบรมแนะนำอีกแล้ว เป็นการปิดหูปิดตาตัวเอง ทำให้มองได้ว่า ทำตัวเหมือนลูกฟักนอนกลิ้งอยู่ เพราะลูกฟักไม่มีหูที่จะฟัง และไม่มีตาที่จะดู การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบนั้นเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง


จากหนังสือ กิร ดังได้สดับมา (เล่ม ๓ หน้า ๐๒๓ - ๐๒๕) 

พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต)

ภาพจาก www.nstru.ac.th, เพจการบ้าน

ความคิดเห็น

  1. ขอกราบอนุโมทนาบุญ ได้เข้าใจความประพฤติปฏิบัติของคณะสงฆ์ที่ยึดถือพระธรรมวินัยเป็นหลัก สาธุ น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

    ตอบลบ
  2. ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการประชุมเนืองนิตย์ ทำให้ทราบว่า พระสงฆ์อบรมตนเองอย่างนี้จึงมีความสามัคคีในหมู่สงฆ์และเกิดความพร้อมเพรียงงดงาม

    ตอบลบ
  3. ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุครับ

    ตอบลบ
  4. ดราบ
    กราบอนุโมทนาบุญ ด้วยครับ

    ตอบลบ
  5. #saveหลวงพ่อ
    #ขอความเป็นธรรม
    กราบอนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะสาธุสาธุ
    #saveหลวงพ่อ
    #ขอความเป็นธรรม

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น