หลังจากเปลี่ยนอิริยาบถ นั่งเป็นยืน เป็นเดิน หรือนอน เราก็หมั่นตรึก หมั่นนึก นึกเบา ๆ บ่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่เรียกว่า "ภาวิตา พหุลีกตา" ทำบ่อย ๆ ทำเนือง ๆ ทำทั้งวันทั้งคืน
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ท่านทำความเพียรอย่างนี้ บางครั้งก็เห็นแสงสว่าง บางครั้งก็ไม่เห็น แต่ท่านก็ไม่ลดละความเพียร บางครั้งเห็นตลอดกลางวัน แต่กลางคืนไม่เห็น บางครั้งเห็นตลอดทั้งคืน แต่กลางวันไม่เห็น ท่านก็ฝึกฝนต่อไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็เห็นทั้งกลางวัน เห็นทั้งกลางคืน บางครั้งเห็นชั่วแวบเดียว บางครั้งเห็นได้นาน
ท่านหมั่นฝึกฝน อบรมจิตใจของท่านไปเรื่อย ๆ โดยมีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร เป็นเป้าหมาย หวังที่จะพ้นทุกข์ ให้เข้าถึงสุขอันเป็นอมตะให้ได้ ท่านจึงให้ความสำคัญ ต่อการฝึกฝนอบรมใจอย่างนี้
ชาตินี้เรามีข้อสังเกตอยู่ว่า ทำไมชีวิตเราลุ่ม ๆ ๆ ดอน ๆ ทำไมปฏิบัติธรรมไม่ค่อยหยุดนิ่ง นั่นก็เป็นเหมือนกระจก สะท้อนให้เห็นเงาของชีวิต ที่ผ่านมาในอดีตว่า เราขี้เกียจฝึกหยุดฝึกนิ่งมาก่อน เราเคยเจอกันมาแล้วบ้าง หรือพวกเราเคยไปเจอผู้รู้มาบ้าง เขาแนะนำ เราก็ยังขี้เกียจอยู่ ชาตินี้ก็มีอานิสงส์ของความขี้เกียจ คือ มันก็มืดมากบ้าง มืดมัวบ้าง ก็จะเจอกันอย่างนี้
เมื่อเราเห็นสิ่งที่สะท้อนถึงเงาในอดีตแล้ว ปัจจุบันเราก็จะต้องสั่งสมการปฏิบัติให้เยอะ ๆ นะลูกนะ
ฝึกใจกันไปทุก ๆ วัน เดี๋ยวก็หยุด เดี๋ยวก็นิ่ง เดี๋ยวก็มั่นคงจนได้ เมื่อข้างในหยุดนิ่ง ข้างนอกเคลื่อนไหว สองประสาน งานสร้างบารมีก็จะสำเร็จจนได้ ต้องขยันนะลูกนะ หมั่นฝึกฝนอบรมใจกันไปทุกวันเลย สักวันหนึ่งเราจะต้องเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวให้ได้
ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่
๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๕, ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
สิ่งที่ต้องแสวงหา เล่ม ๒ (หน้า ๑๙๒ - ๑๙๕)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
ตอบลบคำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
🌿🌷🏵️🌼💐🌺💮🌺💐🌼🏵️🌷🌿