ง่วงเราก็หลับ ฟุ้งก็ภาวนา

ถ้าเมื่อยก็ขยับ แต่อย่าให้กระเทือนคนข้างเคียง เพราะว่าเขากำลังจะใจรวมสนิท เราต้องให้โอกาสเขาเข้าถึงธรรม ต้องสนับสนุนเขา

หรือขยับแล้วยังไม่หายเมื่อย ก็ลุกไปเบา ๆ ค่อย ๆ ย่อง อย่าให้เกิดเสียงดัง ไปบริหารขันธ์ ๕ บิดเนื้อบิดตัวให้สบายแล้วค่อย ๆ ย่องกลับเข้ามานั่งใหม่อย่างเบา ๆ เงียบ ๆ

ง่วงเราก็หลับ แต่หลับในกลางนะลูกนะ ฟุ้งก็ภาวนา สัมมาอะระหัง ถ้าไม่หายก็ลืมตามาดูรูปคุณยายอาจารย์ฯ ดูดวงตาของท่านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา หรืออยู่ที่บ้านจะดูดวงแก้ว องค์พระ หรือดอกไม้ของหอมก็ดูไป พอสบายอกสบายใจเราก็หลับตาใหม่ นิ่ง ๆ นุ่ม ๆ ละมุนละไม สบาย ๆ

ถ้าหากว่า นึกดวงแก้วไม่ออก ก็ไม่ต้องนึก เริ่มต้นนึกถึงหน้าคนที่เรารักก่อน หน้าแม่เราบ้าง ถ้าเป็นแม่ก็นึกถึงหน้าลูก แต่อย่าไปนึกถึงหน้าคนที่เราไม่ชอบนะ ให้นึกถึงคนที่เรานึกแล้วสบาย ลองทดลองดู นึกได้ไหม นึกได้ก็เปลี่ยนหน้าเป็นดวง ลองนึกเอา รัว ๆ ราง ๆ ก็ไม่เป็นไรค่อย ๆ ประคองใจไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะสมหวังดังใจทุกคน จะต้องเข้าถึงธรรมกันอย่างแน่นอน

ถ้าง่วงก็ปล่อยให้หลับ แต่หลับอยู่ในกลางกาย อย่างสบาย ๆ ถ้าสดชื่นตื่นขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นใจจะละเอียด นุ่มเนียน ละมุนละไม ก็ให้รักษาใจตรงนั้นเอาไว้ให้ดี

อารมณ์ที่จะหยุดนิ่ง คล้าย ๆ กับตอนใกล้จะหลับ หรือเหมือนตื่นจากหลับ ต่างแต่ว่า ถ้าหลับ ขาดสติ แต่ถ้าหยุดนิ่ง มีสติ

ตอนที่ตื่น ใหม่ ตรงนี้สำคัญนะ พอตื่นปั๊บ นิ่งเลย แต่ต้องมีศิลปะ ค่อย ๆ ประคองใจ เหมือนเราประคองเข็มเย็บผ้า เข็มหมุด วางบนผิวน้ำ อาศัยความตึงผิวน้ำ ถ้าวางเบา ๆ จะลอยได้ ต้องประคองใจตอนตื่นใหม่ ๆ เพราะตอนนั้นยังไม่คิดอะไร เฉย ๆ นิ่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ ได้แค่ไหนเราก็เอาแค่นั้นไปก่อน อย่างสบาย ๆ


ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่

๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

สิ่งที่ต้องแสวงหา เล่ม ๒ (หน้า ๒๐๖ - ๒๐๙)

ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน

ความคิดเห็น