ความมืดเป็นมิตร ไม่ได้เป็นศัตรูกับการเข้าถึงธรรม เป็นความมืดที่น่ารัก ถ้าเรารู้จักที่จะอยู่กับความมืด ความมืดก็จะเป็นเกลอ เป็นสหายของเรา
อย่ากังวลกับการเห็นภาพ หรือว่าต้องเห็นอะไรอย่างนั้น อยู่กับความมืดอย่างสบาย ๆ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
ยิ่งมืดก็ยิ่งดึก ยิ่งดึกก็ยิ่งใกล้สว่าง ไม่ช้าความสว่างก็จะมาเอง อยู่กับความมืดด้วยใจที่สบาย ๆ เบิกบาน
แล้วก็อย่าให้มีความคิดว่า มืดอย่างนี้แล้วเมื่อไรดวงสว่างจะมาปรากฏ อย่านึกคิดอย่างนี้ อยู่กับความมืดด้วยใจที่นิ่งสงบ
ให้เราคุ้นกับความมืดอย่างนั้นไปก่อน อย่าไปตีโพยตีพายว่า ไม่เห็นจะได้อะไรเลย ความสว่างไม่เห็นมา ต้องนึกเหมือนเรานั่งเงียบ ๆ ในคืนที่มืดมิด
สมมติว่า เป็นเวลาตี ๑ เราก็ต้องยอมรับว่า นี่คือตี ๑
ถึงจะตีไพยตีพายอย่างไร ดวงอาทิตย์ก็ไม่มาปรากฏให้เราเห็น แม้ดี ๒ ดี ๓ ดี ๕ ดี ๕ ก็เช่นเดียวกัน จนกว่าจะถึงเวลาอันเหมาะสม
ใกล้รุ่ง แสงเงินแสงทองจึงจะมาปรากฏให้เราเห็น และแหล่งกำเนิดของแสงเงินแสงทองเป็นดวงสีแดง ๆ ยามอรุโณทัยจึงจะมาภายหลัง
ถ้าเรานั่งนิ่ง ๆ โดยไม่กังวลอะไร เหมือนนั่งในยามรัตติกาล ในคืนเดือนมืดอย่างนี้ ไม่ช้าจะสมหวัง คือใจจะสงบ ไม่ทุรนทุราย จะหยุดนิ่ง จะสว่างไปเอง
ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่
๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕
สิ่งที่ต้องแสวงหา เล่ม ๒ (หน้า ๒๒๗ - ๒๒๘)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น