บุญที่เนื่องกับ พระเดชพระคุณหลวงปู่

ทำใจให้ใส ๆ นึกน้อมภาพพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่เราจำได้ นึกน้อมท่านไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างเบา ๆ สบาย ๆ นึกถึงท่านทุกวันตลอดเวลา ให้ใจของเราผูกพันอยู่กับท่านทุกวัน ทุกคืน ก็จะเป็นทางมาแห่งบุญของเรา

ไม่ใช่เฉพาะเพียงชาตินี้ แต่เราผูกพันกับท่านมาข้ามชาติ หลายชาติมากมายทีเดียว ในระหว่างที่เราเวียนว่ายตายเกิดมานี้ แต่บางช่วงของชีวิตก็ยาว บางช่วงก็สั้น บางช่วงก็พลัดจากท่านไปบ้าง ในยามที่เราประมาท ในการดำเนินชีวิต แต่ว่าเราก็ได้อยู่ร่วมสร้างบารมี กับท่านในหลาย ๆ ลักษณะ กันมาอย่างนี้

แม้กระทั่งปัจจุบันในชาตินี้ บางคนก็มาถึงท่านเร็ว บางคนก็ช้า คำว่า ถึงท่านนี้ แม้ท่านจะละสังขารไปแล้วก็ตาม การได้ถึงวิชชาของท่าน ก็ถือว่าได้เจอตัวองค์ท่านบางชาติเราก็เจอกายเนื้อของท่าน ก็สลับกันไปอย่างนี้เป็นช่วง ๆ

แปลว่า เราเป็นสายธาตุสายธรรม ของท่านมาตลอด ชาตินี้จึงได้มาสร้างบารมีกับท่านอีก แม้ว่าเราจะเข้าใจในระดับหนึ่ง หรือบางทีเราก็ไม่เข้าใจลึกซึ้ง แต่เราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมเราต้องผูกพันกับท่าน ต้องมาสร้างบารมีร่วมกับท่าน ก็เพราะว่าเราได้เคยสร้างกันมา อีกทั้งท่านก็ทุ่มบุญทุ่มบารมีตามเรามา ด้วยเหตุนี้เราก็จะต้อง ตรึกระลึกนึกถึงท่านให้ได้ตลอดเวลา

การระลึกนึกถึงท่าน เป็นทางมาแห่งบุญ และการเข้าถึงวิชชาธรรมกายของเรา บุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข และความสำเร็จในชีวิตของเรา สุขทั้งในมนุษยโลก และในเทวโลก การที่เราประสบความสุขความสำเร็จในชีวิต ในการสร้างบารมี ในธุรกิจการงานต่าง ๆ ก็เพราะบุญนี่แหละบุญที่เนื่องกับพระเดชพระคุณหลวงปู่นั้นไม่ธรรมดา

วันใดที่เราเข้าถึงวิชชาธรรมกาย เราจะเห็นบุญได้ด้วยตัวของเราเอง และเราจะซาบซึ้งถึงคำที่หลวงพ่อได้กล่าวไปนี้

ให้ลูกนึกถึงท่าน เอาใจผูกพันกับท่านเอาไว้ แม้ยังไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์ก็ตามเถิด แต่สักวันหนึ่ง เมื่อใจเราหยุดนิ่งได้สมบูรณ์ ความบริสุทธิ์ของใจเราละเอียดเพิ่มขึ้นด้วยความนิ่งแน่น ความรู้ที่สมบูรณ์ก็จะบังเกิดขึ้นแก่เรา ที่ทำให้เราหายสงสัย นำมาซึ่งความปีติปราโมทย์ใจ สุขใจ ปลื้มใจ

ดีใจว่า เรามีเชื้อสายของท่าน ซึ่งเป็นผู้นำที่จะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม "ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล นิพพานถอดกาย ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย"

นี้เป็นคำกล่าวของท่านเอง ที่ท่านได้กล่าวเอาไว้สั้น ๆ เพื่อว่า สักวันหนึ่งผู้มีบุญอย่างพวกเรา จะได้ยินได้ฟังเรื่องนี้ เป็นข้อคิดสะกิดใจ ให้เราต้องหันมาสร้างบารมีร่วมกับท่าน และก็มาทำความเข้าใจ ในประโยคที่ท่านกล่าวนั้น ด้วยการให้โอกาสตัวเองหยุดนิ่งอยู่ภายใน และเห็นธรรมไปตามลำดับที่มีอยู่ในตัวของตนเองนั่นแหละ

การที่ท่านกล่าวว่า "ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล นิพพานถอดกาย ไม่มีใครรู้เรื่องการปราบมารนี้"

เพราะว่า มารเป็นเรื่องลึกซึ้ง ละเอียด ลุ่มลึกมาก ต้องเฉพาะผู้มีบารมีแก่ ๆ มีธาตุธรรมพิเศษ ในการกิจของนักรบกองทัพธรรม ที่จะปราบมารประหารกิเลส ให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษในต้นเหตุแห่งมารทั้ง ๕ ฝูง ความทุกข์ทรมานของชีวิต นั่นแหละจึงจะรู้ได้

เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่บรรลุธรรมใหม่ ๆ ท่านได้กล่าวไว้ในบทเทศน์ของท่านว่า "ผู้เทศน์ไปมาแล้ว ๗ วัน" นิพพานทั้งหลายนั่นแหละ คือ นั่งอยู่ในอิริยาบถเดียวไม่ถอนถอยเลย ๗ วัน ๗ คืน ไม่ลุกจากที่ เพื่อที่จะสืบเรื่องราวว่า มีผู้ใดรู้เรื่องการปราบมารนี้บ้างไหม 

ท่านก็ไปสืบ ๆ ต่อ ๆ กันไปอย่างนั้นในนิพพานถอดกาย เพราะผังเดิมนั้นต้องมาปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ จึงทะลุเลยไปกว่านั้น แล้วก็ไปรู้เห็นเรื่องราว ของมารตัวจริงที่เป็นฉากหลัง เบื้องหลังของทุกสิ่งนั่นแหละ

ทำให้เข้าใจว่า มนุษย์เหมือนหุ่นกระบอกที่เขาเชิด ให้แสดงบทบาทอะไรก็ได้ และท่านก็มุ่งไปอย่างนั้น ไปสู่ที่สุดแห่งต้นเหตุของพญามาร ทำอย่างนี้ตลอดชีวิตของท่านตลอดเวลา แม้เวลาท่านจำวัดก็ยังให้ทีมงานทำตลอด ๒๕ ชั่วโมง จนหมดอายุขัยของท่าน


ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่

๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

สิ่งที่ต้องแสวงหา เล่ม ๓ (หน้า ๒๒๐-๒๒๓)

ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน

ความคิดเห็น

  1. ✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🌿🌷🏵️🌼💐🌺💮🌺💐🌼🏵️🌷🌿

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น