เรามาเกิดในโลกนี้ชั่วครั้งชั่วคราว ประเดี๋ยวประด๋าวก็จะหมดเวลากันไปแล้ว สังขารร่างกายของเราเสื่อมไปเรื่อย ๆ ทุกวันอย่างที่เราไม่รู้สึกตัวกันเลย มารู้สึกตัวอีกทีต่อเมื่อความเสื่อมนั้น มันชัดเจนแล้ว
ร่างกายก็ต้องผุ ต้องพัง เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายเรา แว่นตา ปากกา แหวนเพชร ก็ต้องผุพังไปสู่จุดสลายทั้งนั้น บ้านเรือนที่เราอาศัยก็ต้องผุพังกันไป รถที่เราอาศัยขับไปทำงาน ไปทำธุรกิจกิจต่าง ๆ ก็ต้องพัง อย่าว่าแต่รถเลย ถนนหนทางที่เราใช้มันก็พัง บ้านเรือนผู้คนพังหมด ไปสู่จุดสลายหมด
ภูเขาเลากาเขาก็ไปขุดไปทำลายกัน มันก็พัง แม้กระทั่งโลกที่เราอยู่นี้ สักวันก็ต้องไปถึงกัปวินาศด้วยดิน ด้วยน้ำ ด้วยลม ด้วยไฟ อย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องพังกันไปทั้งหมด
เรามาอยู่ในโลกนี้ชั่วคราวเท่านั้น ร่างกายที่เราอาศัยอยู่ก็ชั่วคราว คน สัตว์ สิ่งของที่เกี่ยวข้องกันก็ชั่วคราว เพราะฉะนั้นเราต้องหวนกลับมานึกว่าเรามาเกิดทำไม อะไรคือวัตวัตถุประสงค์ของชีวิต
จากการศึกษาคำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งท่านเป็นผู้รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งปวง ท่านได้สรุปชีวิตในสังสารวัฏเอาไว้ว่า ชีวิตในสังสารวัฏนี้มีแต่ภัยล้วน ๆ ไม่มีความสุขเลย มีแต่ทุกข์มากกับทุกข์น้อย แล้วการจะดำรงชีวิตให้ปลออดภัย จากอบาย ภัยในสังสารวัฏ หรือภัยใด ๆ ก็ตาม ไม่ใช่เรื่องง่าย
ชีวิตในสังสารวัฏมีภัย เพราะทุกคนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม ที่นอกเหนือจากกฎของไตรลักษณ์ คือ ความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่เป็นอิสระ ความไม่เป็นตัวของเราเอง ยังตกอยูภายใต้กฎแห่งกรรม นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ของทางบ้านเมือง กฎหมายอะไรต่าง ๆ สารพัด
กฎแห่งกรรม คือ กฎแห่งการกระทำทางกาย ทางวาจา ทางใจ ไม่ว่าดีหรือชั่วล้วนมีผลทั้งสิ้น ทำดีทางกายวาจาใจ ย่อมได้รับผลดี ผลดีที่ทันตาเห็นก็มี ผลดีที่หลังจากละโลกไปแล้วก็มี ทำชั่ว
ย่อมได้รับผลชั่ว ทั้งทันตาเห็น และหลังจากตายแล้วก็มี ผลดีไม่มีปัญหา แต่ถึงจะดีอย่างไรก็ชั่วคราว ถ้าหากว่ายังขจัดกิเลสอาสวะ ซึ่งเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ไม่หมดไป มันก็ดีชั่วคราว
แต่ผลทุกข์นี่สิ มีอบายรองรับ ทุกข์ในเมืองมนุษย์มันประเดี๋ยวประด๋าวไม่กี่สิบปี เดี๋ยวก็หมดไปแล้ว พร้อมกับกายมนุษย์ แต่ทุกข์ในอบายนั้น ในกำเนิดของสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรกนั้นยาวนาน โดยเฉพาะในมหานรกตั้ง ๘ ขุม
ขุมบริวาร และยมโลกรวมแล้ว ๔๕๖ ชุม นานเสียจนเรานึกไม่ถึง คือ นานไม่ใช่เป็นแค่หมื่นปี แสนปี ล้านปีเท่านั้น แต่หลาย ๆ พันล้านปีมนุษย์ หรือหลาย ๆ หมื่นล้านล้านปีมนุษย์ ยิ่งขุมลึก ๆ ลงไปเท่าไร ก็ยิ่งนาน ไม่มีเวลาว่างเว้น จากความทุกข์ทรมาน อันแสนสาหัสเลย นี่คือกฎเกณฑ์ที่เขาบังคับกันอยู่
เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงสอนให้รู้จักเรื่องราว ความเป็นจริงของชีวิตอย่างนี้ แล้วก็หาทางหลุดพ้นจากวัฏฏะให้ได้ หรืออย่างน้อยถ้าจะอยู่ในวัฏฏะ ก็ต้องอยู่ในระดับที่มีทุกข์น้อย สุขมาก ต้องมีสรณะ มีที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง นั่นแหละชีวิตจึงจะปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงนั้น เราต้องรู้จักเสียก่อน
ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่
ง่ายแต่ลึก เล่ม ๕ (หน้า ๑๒-๑๔)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
✨น้อมกราบหลวงพ่อธัมมชโย #คุณครู
ตอบลบไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งครับ
🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟