หน้าที่ของพระพี่เลี้ยง คือ เป็นพี่เลี้ยงน้องใหม่ ที่จะเข้ามาสู่ร่มเงาของพระพุทธศาสนา
น้องใหม่เมื่อเข้ามาบวชใหม่ ๆ ก็ยังทำอะไรไม่เป็น ทั้งกิจวัตรกิจกรรมก็ดี เรื่องพระธรรมวินัยต่าง ๆ ก็ดี ยังเป็นผู้ใหม่อยู่ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของพระพี่เลี้ยงจะต้องไปทำหน้าที่ของพี่ คอยประคับประคอง ให้คำแนะนำที่ดีแก่รุ่นน้อง
"แนะ" คือ ให้คำแนะนำสั่งสอน อบรมข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ ที่เราได้ฝึกตัวมาตลอดระยะเวลาว่า วิธีที่จะให้เป็นพระที่สมบูรณ์เขาทำกันอย่างไร โดยเฉพาะน้องใหม่มีเวลาช่วงสั้นในการอบรม ควรจะได้เรียนรู้อะไรบ้าง ที่ลัดสั้นที่สุด ที่ทำให้เป็นพระได้สมบูรณ์ ราวกับบวชมาแล้ว ร้อยพรรษาอย่างนั้น
"นำ" คือ ทำให้ดู เป็นแบบอย่างที่ดี ข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ เราก็ทำให้เขาดู อะไรที่เขาเลียนแบยังไม่สมบูรณ์ เราก็แนะเขา ประคับประคองกันไปอย่างนี้อย่างนั้น
รวมทั้งคอยเป็นพี่เลี้ยง เรื่องการปฏิบัติธรรมนอกรอบให้ด้วย ในรอบก็มีพระอาจารย์ ท่านให้คำอบรมสั่งสอนอยู่แล้ว นอกรอบก็จะเป็นหน้าที่ของพระพี่เลี้ยงคอยชี้แนะ
แก้ไขในสิ่งที่น้องใหม่ ยังไม่ค่อยเข้าใจ และคอยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น คอยให้กำลังใจ เพราะบางที่น้องใหม่ ไม่เคยเจอระบบระเบียบต่าง ๆ หรือความเป็นอยู่แบบพระ ก็อาจจะอึดอัด ก็คอยให้กำลังใจ ประดับประคองกันไป ให้ใช้วิธีแบบพี่กับน้อง อย่าไปใช้วิธีอื่น
สมัยก่อนโน้น เคยมีบางรุ่นเหมือนกัน แต่ว่าหลัง ๆ นี้ไม่ค่อยเจอ เพราะหลวงพ่อปรับวิธีการไหม่ คือ ดูแลกันจนกระทั่งเคร่งเครียด ไม่มีความสุข ซึ่งมันผิดวัตถุประสงค์ แต่
รุ่นนี้ต้องการให้ประคับประคองกัน ให้ทุกคนได้รับความสุขทุกขั้นตอน ตั้งแต่เป็นธรรมทายาท กระทั่งมาเป็นพระธรรมทายาท จนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาลอบรมธรรมทายาท ให้มีความสุขตลอดการอบรมเลย
เพราะฉะนั้น ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีกเดือนเศษ ๆก่อนการอบรม ถ้าหากว่ายังไม่คล่องความรู้ด้านทฤษฎี ก็คงต้องได้รับการอบรมจากหลวงพ่อทัตตชีโวเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องการปฏิบัติธรรม ก็จะต้องพยายามขวนขวายให้เข้าไปถึงจุดแห่งการเข้าถึง ประสบการณ์ภายในให้ได้
โอวาทจากคุณครูไม่ใหญ่
๑ มีนาคม พ.ศ ๒๕๓๘
เมื่อไม่รู้จะอ่านอะไร เล่ม ๓ (หน้า ๑๖๘-๑๖๙)
ภาพดี ๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น