ทีนี้จะรู้ว่า อะไรแท้จริง หรือไม่แท้จริง เราจะต้องรู้จักสิ่งที่ ไม่แท้จริงด้วย
สิ่งที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย สิ่งนั้นไม่ใช่ที่พึ่งที่แท้จริง ไม่ใช่ ที่พึ่งอันเกษม สิ่งที่เป็นพระรัตนตรัยเท่านั้น จึงจะเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง ซึ่งมีอยู่ ๒ ระดับ คือ พระรัตนตรัยภายนอก กับพระรัตนตรัยภายใน
พระรัตนตรัยภายนอกเรารู้จักดี มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำสอนของพระองค์ และพระสงฆ์ที่ทรงจำคำสอนเอาไว้ แต่แม้แต่พระสงฆ์ก็ยังต้องหาพระรัตนตรัยในตัวเป็นที่พึ่ง
ทีนี้พระรัตนตรัยที่จะเป็นที่พึ่งที่สมบูรณ์จริง ๆ แล้ว นอก เหนือจากภายนอก ก็คือ พระรัตนตรัยในตัว
พระรัตนตรัยในตัว ตรงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ทั้ง ๆ ที่มีอยู่ในตัว และมีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก แต่ไม่ได้นำมาศึกษา กันไม่ได้นำมาฝึกฝน แล้วก็ไม่ได้นำมาสั่งสอน ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เป็นสิ่งที่เราต้องรู้จัก ต้องเข้าถึงให้ได้ ชีวิตจึงจะปลอดภัยอย่างแท้จริง
พระรัตนตรัยภายในนี้ มีอยู่ในตัวของมวลมนุษยชาติทุกคน ไม่ว่าจะเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ใด มีอยู่ในตัวพระ ในตัวเณร ในตัวญาติโยม อุบาสก อุบาสิกา สาธุชน มีอยู่ในตัวของเรานี่แหละ เป็นกายที่สวยงามมาก ชีวิตในสังสารวัฏมีภัยมาก
กายของพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นแก้ว เป็นเพชร แต่ความจริงใสกว่านั้น ที่ต้องเทียบกับแก้วกับเพชร เพราะมนุษย์รู้จักเพียงท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว ท่านใสเกินใส ใสกว่านั้น งามไม่มีที่ติ เพราะประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ
จะรู้จักลักษณะ มหาบุรุษต้องเข้าไปถึงท่านนั่นแหละ ท่านมีเกตุดอกบัวตูม เหมือนดอกบัวสัตตบงกช ตั้งอยู่บนจอมกระหม่อม ไม่ใหญ่ไม่เล็ก กำลังสวย เป็นลักษณะพิเศษของมหาบุรุษ บนพระเศียรมีเส้นพระศก (เส้นผม) เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ขดเวียนเป็นทักษิณาวรรต หมุนขวาตามเข็มนาฬิกา อยู่บนพระวรกายของท่านที่สวยงาม ในอิริยาบถเดียว คือ อิริยาบถนังขัดสมาธิเจริญสมาธิภาวนา
นี่คือ พุทธรัตนะ เป็นกายผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว คือ พอเราเข้าไปถึงท่านแล้ว ก็รู้ว่าท่านผู้นี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้ รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งปวง แล้วก็รู้ว่ามีวิญญาณของพระบรมครู บรมศาสดา พร้อมที่จะนำความรู้ที่เป็นเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต เป็นสาระแก่นสารมาเปิดเผย เป็นผู้ตื่นตัวตลอด เป็นผู้เบิกบาน มีชีวิตชีวา เบิกบานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กายนี้แหละที่เรียกว่า พุทธรัตนะ
ธรรมรัตนะ อยู่ในกลางพุทธรัตนะ เป็นดวงใสๆ เป็นคลังแห่งความรู้ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
สังฆรัตนะ คือ พระธรรมกายที่ละเอียด ซึ่งอยู่ในกลางธรมรัตนะที่เป็นดวงใสๆ กายสังฆรัตนะก็เหมือนธรรมกาย แต่ละเอียดกว่า โตเท่ากัน
๓ อย่างนี้ เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง เพราะว่าท่านพันจากกฎของไตรลักษณ์และกฎแห่งกรรม รวมทั้งกฎเกณฑ์ทั้งปวง เป็นตัวของตัวเอง เป็นนิรันดร เป็นอิสระ เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุขที่แท้จริงทั้งหมดเลย และมีธัมมจักขุ มองเห็นได้รอบตัวทุกทิศทุกทางในเวลาเดียวกัน มีญาณทัสสนะ มีจักขุ มีญาณ มีปัญปัญญาวิชชา และแสงสว่าง จักขุง อุทะปาทิ ญาณัง อุทะปาทิ ปัญญาอุทะปาทิ วิชชา อุทะปาทิ อาโลโก อุทะปาทิ สรุปคือ จักชุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง รวมประชุมอยู่ในท่าน
ทั้งหมดนี้มีอยู่ในกายของเรา และชาวโลก มีหมดในมวลมนุษยชาติขึ้นชื่อว่ามีมนุษษย์อยู่ที่ไหน มีพระรัตนตรัยอยู่ตรงนั้นอยู่ในกลางตัว นี่แหละคือที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง สิ่งอื่นไม่ใช่ เข้าไปถึงแล้วจะมีความสุขอย่างไม่มีประมาณ แบบพูดไม่ออกบอกบอกไม่ถูก จะมีความรู้แจ้ง เห็นแจ้งแทงตลอด จะมีกำลังใจ พลังใจไม่มี
ที่สิ้นสุดในการอยากจะสร้างความดี และจะจะเอาชนะสิ่งไม่ดีได้ถ้าเราเข้าถึงได้แล้ววิชชาจะเกิดขึ้น ปุพเพนิวาสานุสติญาณระลึกชาติได้ จุดปปาตญาณ รู้การเกิดขึ้นและดับไป ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย หรือรู้เรื่องราวเกี่ยวกับกฎแห่งกรรมได้ อาสวักขยญาณทำอาสวกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ หรือความไม่รู้อะไรต่าง ๆ นั้น ให้หมดสิ้นไปได้
๓ อย่างนี้มีอยู่ในตัวของเรา ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดื้อขึ้นมา ๒ นิ้วมือ อยู่ในกลางท้องของเราตรงนี้
ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่
ง่ายแต่ลึก เล่ม ๕ (หน้า ๑๕-๑๗)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น