สว่างหรือมืดก็ดูเฉย ๆ

เมื่อบวชแล้วควรทำอย่างไร ปฏิบัติให้ใด้เข้าถึงพระ ง่วงก็ปล่อยให้หลับ เมื่อยก็ขยับ ฟัุงก็ลืมตา แล้วก็ว่ากันใหม่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ


ไม่ช้าใจก็จะค่อย ๆ 
ถูกปรับให้เข้าไปอยู่ภายใน จะค่อย ๆ คุ้นกับศูนย์กลางกายไปเรื่อย ๆ บางช่วงอาจจะมีแสงสว่าง หรือนิมิตเกิดขึ้น 

คือมีภาพเกิดขึ้นมา ทางซ้ายบ้าง ทางหน้า ทางหลัง ทางล่าง ทางบน จะมาทางไหนก็แล้วแต่ ให้เล่นตัวเอาไว้ ถ้าไม่มาที่ศูนย์กลางกาย ไม่สน 

เรารักษาใจตรงกลาง พอนิ่งมาใหม่อีกแล้ว ซ้าย ขวา หน้า หลัง ล่าง บน เป็นดวงดาวเล็ก ๆ บ้าง เป็นภาพโน่นภาพนี่ ภาพอะไรก็แล้วแต่ อย่าไปชำเลืองดู แม้อยากจะดูใจแทบขาดให้เฉย ๆ นิ่ง ๆ ไว้

ถ้าเราเหล่ตาเหลือบไปดู พอไปดูปั๊บ อ้าว หายอีกแล้ว เพราะฉะนั้นให้เล่นตัว ทำเฉย ๆ นิ่ง ๆ ตรงกลาง แม้ตรงกลางมืด ไม่มีอะไรให้ดูก็ตาม เราก็ดูความมืดเอาไว้ ดูเฉย ๆ

ทีนี้บางทีภาพมันมากลางท้อง แต่ไม่ใช่ภาพที่เราต้องการ เพราะเราต้องการดวงใส ๆ องค์พระใส ๆ 

แต่ภาพที่เกิดขึ้นสมมติเป็นภาพต้นไม้ภูเขาเลากา เป็นมด เป็นแมว หรือภาพอะไรเกิดขึ้น ล้วนแต่ให้ดูเฉย ๆ ดูไปงั้น ๆ สักแต่ว่าดู ไม่ต้องไปเพ่ง ไปไล่

เดี๋ยวภาพนั้นก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แม้เปลี่ยนไปเป็นองค์พระ จะทำด้วยอิฐ ด้วยหิน ด้วยปูน ด้วยทราย ด้วยโลหะอย่างนั้นอย่างนี้ เดี๋ยวเล็ก เดี๋ยวใหญ่ เดี๋ยวหันหน้ามาทางเราบ้าง เอียงข้างบ้าง 

บางทีหกคะเมนตีลังกาบ้าง ก็ให้ดูเฉย ๆ ดูไปงั้น ๆ ไม่ต้องไปคิดอะไร เหมือนนกบินมาในอากาศ เมฆลอยบนท้องฟ้า เราก็ดูไปเรื่อย ๆ

ให้ดีใจไว้เถิดว่า การที่ภาพเกิดแสดงว่าสมาธิเราดีขึ้นไปในระดับหนึ่งแล้ว ใจเราละเอียดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ 

เพราะฉะนั้นจึงยังไม่ได้ภาพที่ต้องการ สิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือ ดูไปเรื่อย ๆ อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น

เดี๋ยวภาพนั้นก็จะเปลี่ยนไป จนกระทั่งใจเราหยุดนิ่งใด้สบูรณ์ เห็นดวง เห็นกาย เห็นองค์พระผุดขึ้นมาทีละองค์ ตอนนี้จะมีความสุขมากเลย แล้วความรู้สึก ที่อยากจะแบ่งปันความสุข จะเกิดขึ้นเองเลย


ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่

๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

บางสิ่งที่แสวงหา (หน้า ๑๗-๑๘)

ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน

ความคิดเห็น