สิ่งนี้จะเป็นที่พึ่งของเรา


ใครที่มาถึง ณ จุดตรงนี้ ที่องค์พระผุดขึ้นมาทีละองค์ หรือยังไม่ผุด
ขึ้นมาก็แล้ว แต่จงหวงแหนสิ่งที่มีคุณค่านี้ ให้ยิ่งกว่าชีวิตของเรา 

เพราะสิ่งนี้จะเป็นที่พึ่งของเรา จะปิดประตูอบาย เปิดประตูสวรรค์ อบายไม่ต้องไปเลย มีแต่สุคติเป็นที่ไป และก็จะมีสุขในปัจจุบันที่ได้เข้าถึง

ที่ต้องเตือนอย่างนี้ เพราะว่ามีหลาย ๆ ท่าน บุญเก่านำมาให้ถึงจุดที่หยุดนิ่ง ในระดับที่ผุดขึ้นมาทีละองค์ ก็เลยนึกว่ามันง่าย 

เกิดความชะล่าใจว่า จะทำเมื่อไรก็ได้ ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นกับผู้มาใหม่ ที่ยังไม่เคยปฏิบัติธรรมเลย ใจยังอินโนเซ็นท์อยู่ เรื่องไม่มาก เหมือนผู้มาก่อนที่รู้มากก็เลยยากนาน

แต่ทีนี้ผู้มาใหม่พอได้ถึงตอนนี้ มักจะชะล่าใจว่าจะทำเมื่อไรก็ได้ แล้วก็ทอดธุระไม่ฝึกต่อ ไม่รักษา ไม่หวงแหนเอาไว้ ในที่สุดองค์พระที่เห็นก็เลือนหายไปจากใจ 

แต่จริง ๆ ท่านไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในกลางกายเหมือนเดิม เป็นแต่เพียงใจของบุคคลนั้น ถอยหยาบออกมา เพราะในชีวิตประจำวัน ที่ทำให้ใจหยาบอยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ทั้งตื่น ทั้งหลับ ทั้งฝัน มันก็พร้อมที่จะดึงใจเราออกมาตลอดเวลา

พอดึงใจออกมาก็หลุดเลย เพราะมัวแต่ไปเพลินทำอย่างอื่น ซึ่งก็ได้มีความสุขหรอก แต่พอบุญเก่าสะกิดเตือนใจ หรือเมื่อเจอกัลยาณมิตร พูดถึงเรื่องที่ตัวเคยได้ หรือไปสะกิดใจ เธอ นี่เธอยังเห็นองค์พระอยู่ใหม ให้รักษาไว้นะ 

เอาล่ะสิ ตอนนี้พยายามจะมองให้เห็น มันก็ไม่เห็นแล้ว เพราะว่าใจไม่ละเอียดเหมือนเดิม มันปนความหยาบ ความตั้งใจไปโดยไม่รู้ตัว

นี่คือความทุกข์สำหรับผู้ที่ซะล่าใจ แล้วก็จะพร่ำเพ้อรำพึงรำพันว่า ตอนโน้นเคยได้อย่างนั้นอย่างนี้ เวลานั่งทุกทีก็อยากได้ถึงตรงนั้น อยากมาก ๆ เข้าก็เลยไม่สมอยาก ก็เข้าไม่ถึง

ดังนั้น ใครได้ถึง ณ จุดตรงนี้ เห็นองค์พระใส ๆ ขึ้นมาแล้ว จงรู้ไว้เถิดว่าเราเป็นผู้มีบุญ ได้เห็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิต ให้รักษาและหวงแหนเอาไว้ ยิ่งกว่าชีวิต สิ่งนี้จะเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกของเราอย่างแท้จริง 

นอกจากให้ความสุข และความบริสุทธิ์แล้ว ต่อไปเมื่อเราทำให้คล่อง ให้ชำนาญ ให้ผุดขึ้นมาทีละองค์ จนกระทั่งทำได้ตลอดเวลาเลย 

เราก็มีสิทธิ์ที่จะไปศึกษาวิชชาธรรมกายในขั้นละเอียด ตั้งแต่ขั้นประถม มัธยม อุดม เตรียมอุดม และอุดมศึกษาเรื่อยไปเลย ซึ่งจะทำให้เรา ได้เรียนรู้เรื่องราวความจริงของชีวิต ที่ยังเป็นความลับ สำหรับตัวเราจะถูกเปิดเผย

เมื่อถึงจุดที่เราได้ไปศึกษาวิชชาธรรมกายแล้ว เราจะอัศจรรย์ใจตัวเราเองว่า คนอย่างเรานี่ก็เข้าถึงได้อย่างเขาเหมือนกันนะ แล้วก็จากความอัศจรรย์ก็จะเป็นเรื่องธรรมดา 

เมื่อก่อนเราก็ทึ่งว่าคนอื่นเขาทำได้ แต่พอเราเข้าถึงจริง ๆ แล้ว และทำจนชำนาญ ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เหมือนเราหายใจเข้า หายใจออก อย่างนี้แหละ ไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งใจว่า เดี๋ยวฉันจะเข้า เดี๋ยวฉันจะออก เราก็หายใจตามปกติ 

หรือเราจะดูอะไรก็แล้วแต่ เราลืมตาดู เห็นต้นไม้ เห็นภูเขา การปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน พอถึง ณ จุดตรงนั้นแล้ว เราใด้เป็นอันหนึ่งอันเดียว กับพระธรรมกายในตัวแล้ว เดี๋ยวเราจะ rewind เทปชีวิตก็ได้มันก็เป็นเรื่องที่อยู่ในวิสัยที่เราทำได้

สิ่งนี้มีอยู่แล้วในตัวของมนุษย์ทุกคน แต่มนุษย์ไม่ค่อยเฉลียวใจเลยว่า เรามีสิ่งที่ดี ๆ ที่นำอัศจรรย์ใจอยู่ในตัวของเรา เพราะฉะนั้นถึงตรงนี้แล้ว

ต้องหวงแหนรักษาไว้ให้ดี รักษาอารมณ์ดีอารมณ์เดียว อารมณ์สบายให้ได้เรื่อย ๆ หมั่นปฏิบัติบ่อย ๆ แล้วความชำนาญก็จะเกิดขึ้นเอง


ธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่

๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

บางสิ่งที่แสวงหา (หน้า ๑๙-๒๑)

ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน

ความคิดเห็น